จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 0 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | มุมศึกษา |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
ชมรมพระเครื่องหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
"พระพุทธเหนือพรหม เนื้อผง (รวม)" ว่างๆครับ เลยลองรวบรวมแบบพิมพ์พระในส่วนของพระพุทธเหนือพรหม ในเวอร์ชั่นเนื้อผงพุทธคุณ และเนื้ออื่นๆในบางรุ่นมาไล่เรียงเพื่อประโยชน์ของการศึกษา ซึ่งจะเรียงลำดับรุ่นกันมาตั้งแต่ 1 พิมพ์ใหญ่ ปี 2517 (ไม่มีขอบ) 2 พิมพ์ใหญ่ ปี 2517 (พิมพ์ A) 3 พิมพ์ใหญ่ เริ่มสร้างในปี 2517 (ถอดพิมพ์ปี 17 เรื่อยๆมา) 4 พิมพ์ใหญ่ ปี 2525 (พรหม ร.ศ 200) 5 พิมพ์กลาง ปี 2519 6 พิมพ์เล็ก ปี 2522 (ถอดแบบเหรียญหล่อพระพุทธเหนือพรหมปี 22) 7 พิมพ์เล็ก ปี 2531 (เนื้อดิน) 8 พิมพ์เล็ก ปี 2532 (พรหมเกศา) ......ทั้งหมดนี้เป็นพระชุดพระพุทธเหนือพรหมที่พอจะหารูปและนำมาไล่เรียงกันให้ดูประกอบการศึกษา ซึ่งจะมีข้อมูลแตกย่อยออกมาในส่วนของชุดพระพุทธเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่ โดยในส่วนของพระพุทธเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่นี้ จะเริ่มจัดสร้างออกมาตั้งแต่ปี 2517 โดยจะเริ่มสร้างเป็นชุดพระพุทธเหนือพรหมชุดไม่มีขอบก่อน จึงจะเริ่มสร้างเป็นชุดมีขอบในปีเดียวกัน ซึ่งในส่วนพระพุทธเหนือพรหมชุดที่มีขอบนั้น สำหรับชุดที่จัดสร้างขึ้นมาในปี 17 จะให้คำจำกัดความว่าเป็นพิมพ์ใหญ่ A ซึ่งองค์พระจะมีขนาดใหญ่เต็มฟอร์ม และหลังจากปี 17 มานั้นก็ได้มีการถอดแบบพิมพ์ในส่วนของพระพุทธเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่นี้ออกมาเรื่อยๆซึ่งขนาดขององค์พระรูปทรงแบบพิมพ์ขององค์พระจะเริ่มเล็กลง เนื่องจากการหดตัวของแบบพิมพ์ซึ่งเป็นแบบพิมพ์ยางที่ถอดขึ้นใหม่ แต่ก็จะเรียกพระพุทธเหนือพรหมชุดนี้ว่าเป็นพิมพ์ใหญ่เหมือนกัน .......ในส่วนข้อมูลตรงนี้ดูจะเป็นเพียงข้อมูลที่ไม่สามารถชี้วัดหรือฟันธงในส่วนของพระแต่ละองค์ได้ว่าเป็นพิมพ์ใหญ่ที่สร้างในวาระไหน แต่ด้วยเนื้อหาและขนาดของพระในบางองค์ก็สามารถแยกแยะได้โดยง่ายเช่นกัน ทั้งนี้จึงไม่ถือเป็นประเด็นสำคัญนัก เพราะไม่ว่าจะวาระไหนก็ล้วนแต่จะเป็นปีลึกๆที่ผ่านมากว่าหลายสิบปี และค่านิยมในการเช่าหาก็จะขึ้นอยู่กับความสวยสมบูรณ์และความพิเศษของพระองค์นั้นๆว่าจะมีราคาถูกหรือสูงมากแค่ไหน ...ซึ่งในส่วนของพระพุทธเหนือพรหมนี้ก็ยังคงถือเป็นพระหลักพิมพ์สำคัญและมีเอกลักษณ์เฉพาะและเป็นพระที่น่ามีไว้บูชา .....ซึ่งอธิบายมาทั้งหมดนี้ ก็เพียงเพื่อจะไขข้อข้องใจที่อาจจะเป็นประเด็นให้สงสัยและเพื่อเห็นภาพในส่วนของพระแต่ละยุคแต่ละรุ่นเพื่อประโยชน์ในการเช่าหาสะสมหรืออาจจะไว้เทียบเคียงในส่วนพระของท่านเองที่มีอยู่ที่บ้าน โดยหวังว่ากระทู้นี้น่าจะเกิดประโยชน์กับสมาชิกในบางท่านบ้างไม่มากก็น้อย...ยังไงหากมีข้อสงสัยใดๆก็ยังยินดีตอบให้เช่นเคยครับ "ชัช ชัยมงคล" เครดิต หลวงปู่ดู่ วัดสะแก กลุ่มไตรอุทิศfc ![]() ในรายละเอียดข้อมูลนี้ผมได้เคยนำมาลงเพื่อให้สมาชิกผู้ที่มีความสนใจได้ศึกษามาแล้วหลายครั้ง แต่ก็จะขอย้อนนำมาบอกกันใหม่เพราะมีสมาชิกอีกมากมายที่มีความสนใจเพิ่มเติมเข้ามาศึกษาและมีคำถามมากมายใน in box ที่ส่งเข้ามาถามกันในเรื่องของตรายาง
..โดยการปั๊มตรายางในส่วนของพระผงนั้น จะทำขึ้นมาปั๊มในช่วงประมาณเริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ ๒๕๓๑ โดยเจตนาในการทำนั้นก็ด้วยเห็นว่าพระของหลวงปู่ท่านมีมากมายหลายพิมพ์ และบางพิมพ์ก็ได้มีการถอดแบบจากพระของวัดและคณาจารย์ท่านอื่นซึ่งจะมีแบบพิมพ์ที่เหมือนกันจะแตกต่างเพียงเนื้อหาบวกกับด้วยเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวคือเพื่อที่จะสามารถใช้จำแนกแยกพระแท้ได้ในอานาคต ตรายางในส่วนนี้จึงถูกจัดทำขึ้น โดยจะนำพระที่เหลืออยู่จากการแจกจ่ายออกให้บูชา ไม่ว่าจะเป็นพระรุ่นแรกหรือรุ่นหลังสุดในขณะนั้น หากยังเหลืออยู่ก็จะนำมาปั๊มตรายางที่ด้านหลังองค์พระ ซึ่งฟอร์มของตรายางจะมีด้วยกันทั้งแบบเล็กและแบบใหญ่ โดยในส่วนของสีนั้นหลวงลุงดำท่านจะให้ใช้สีน้ำเงินผสมกับสีแดงให้ได้สีม่วง แต่ต่อมาเมื่อมีลูกศิษย์มาช่วยกันปั๊มมากขึ้นจึงได้ใช้เพิ่มขึ้นมาอีกสีนั่นคือสีดำ
มาถึงในปัจจุบัน ตรายางนั้นก็มีความสำคัญตรงตามเป้าหมาย คือสามารถแยกพระแท้ได้ แต่ก็สามารถแยกได้กับพระงานเก๊แบบเก๊ห่างๆในงานเก๊ประมาณเมื่อ 5 - 6 ปีที่แล้ว แต่มาถึงในปัจจุบันนี้จริงๆ มีตรายางงานเก๊ดีๆออกมาอีกมากมาย ฉนั้นเรื่องของการชี้วัดพระแท้โดยยึดว่าให้มีตรายางก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัยในการเลือกหาบูชา ..โดยตรายางนั้นจะเป็นเพียงองค์ประกอบอันดับท้ายๆในการคัดเลือกเท่านั้น ซึ่งหลักในการพิจรณาควรพิจรณาถึงความสำคัญดังนี้
1 แบบพิมพ์ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
2 เนื้อ (เนื้อหาพระในแต่ละยุคในแต่ละชุดจะคล้ายกัน แต่จะต่างกัน ต้องมีผู้ที่ชำนาญจริงๆคอยให้ความรู้)
3 งานเท งานถอดพระในแต่ละยุค
..นี่คือหลักการสำคัญๆอันดับแรกๆที่ยกขึ้นมาให้ผู้ที่ต้องการศึกษาได้ค้นคว้าหาความรู้และประสบการณ์ ไม่ใช่จะมาจับจ้องอยู่ที่ตรายาง แต่ให้ใช้ประโยชน์ของตรายางเป็นเพียงองค์ประกอบความชอบส่วนตัวเท่านั้น เพราะยังมีพระที่สำคัญๆอีกหลายรุ่นหลายชุดที่ทางวัดได้ออกให้บูชาไปก่อนปีพ.ศ ๒๕๓๑ จำนวนมากมายมหาศาลซึ่งปัจจุบันราคาเป็นหมื่นเป็นแสนที่ไม่ได้รับการปั๊มตรายาง ซึ่งหากผู้ที่เข้ามาศึกษาข้ามหลักการพิจรณาที่สำคัญๆดังที่ยกตัวอย่างมาก็อาจจะพลาดโอกาสอันสุดแสนสำคัญในชีวิตที่จะได้บูชาพระที่ดีที่สุด..
รอยตรายางที่นำมาเรียบเรียงกันให้ดูนี้ เป็นรอยตรายางแท้ทุกรอย เป็นรอยที่ผมได้เรียบเรียงทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว และมีสมาชิกมากมายได้cop และแชร์ต่อๆไป เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้กันอย่างแพร่หลาย และในปัจจุบันจึงมีผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์ได้ตัดต่อเอารอยตรายางเก๊ของตนเองมาทับเพิ่มในบางช่องเพื่อยื่น แนบพร้อมรูปพระของตนเอง ส่งให้ลูกค้าผู้ศรัทธาให้หลงเชื่อ ซึ่งปัญหาแบบนี้จะเป็นปัญหาที่จะทำลายมาตรฐานในระยะยาว ..จึงต้องฝากบอกต่อๆกันเพื่อความปลอดภัย ..หรือจะเซฟเก็บรูปต้นฉบับที่แก้ไขใส่ตัวอักษรนี้ไว้ใช้ศึกษาประกอบการตัดสินใจร่วมกับการพิจรณาหลักที่ผมได้นำกล่าวเอาไว้ข้างต้นก็ยินดีครับ..
![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |